ทริปนี้เป็นทริปสั้นๆ สองวันหนึ่งคืน เพราะจันทบุรีอยู่ไม่ไกลกรุงเทพฯนั่งรถแค่ 4-5 ชั่วโมงก็ถึง
ทริปนี้รวมก๊วนไปได้ทั้งหมด 17 คน พกใจไปลุยป่าหน้าฝน ฝ่าดงทากเพื่อพิชิตผาหินกูบกันเต็มที่
มาที่จุดเริ่มต้นของการเดินเท้าเลยดีกว่า จุดเริ่มต้นอยู่ที่ หน่วยฯทุ่งเพล อ.มะขาม (N 12.85882, E 102.15559 ระบุพิกัดจาก GARMIN GPS TREKKING) บริเวณนี้จะมีบ้านพักสองหลังใหญ่ๆให้เราได้เตรียมตัว
ตั้งแต่สัมภาระ ชุด อาหาร แต่ต้องขอบอกตรงๆครับว่าการประสานงานขึ้นหินกูบกับคนที่ดูแลคนละคนกันเพราะฉะนั้น อย่าแปลกใจถ้ามาถึงหน้างานแล้วไม่ได้อย่างที่ใจหวัง เช่นกำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวชัดเจนว่าไม่เกิน 40-45 คนเพราะข้างบนรับไม่ไหว้จะไม่มีที่ให้นอน ขึ้นไปจริงเจอเยอะมากจนผมต้องให้ เจ้าหน้าที่หน้างานช่วยเครียที่ให้ใหม่ ลูกหาบบอกว่าให้มาเอาที่หน้างาน มีเยอะ ทีแรกตั้งใจจะเอา 5 คน สุดท้ายได้มาแค่ 2 คน แต่ก็ช่างเถอะครับ
เราเดินกันยาวๆประมาณชั่วโมงกว่าเกือบๆ 2 ชั่วโมงบนความชันไม่มากแต่พื้นแฉะ จนมาพักที่ หินเพิง(N 12.87890, E 102.21309 ระบุพิกัดจาก GARMIN GPS TREKKING) จึงวางกระเป๋าเอาน้ำในธารล้างเนื้อล้างตัวล้างหน้าให้สดชื่นแล้วกินข้าวมื้อกลางวันแล้วเดินเท้าต่อไปที่หินแปดเหลี่ยม
จาก หินเพิง ทางเริ่มชั่น เราเริ่มไต่ระดับความสูงจาก 237 เมตรไปที่ 465 เมตร เส้นทางช่วงแรกเดินลัดเลาะตามธารน้ำ ได้ยินเสียงน้ำค่อนข้างชัดเจน และเริ่มเข้าสู่ดงทาก แอบระแวงบ้างแต่ก็ระวังตัวมากเรื่องทาก คอยก้มมองเท้าอยู่เรื่อยๆ อย่างน้อยถ้าโดนเกาะก็คงดึงออกทันก่อนที่จะโดนดูด ใช้เวลาเดินอยู่พักใหญ่สุดท้ายก็มาถึงหินแปดเหลี่ยม ที่ความสูง 465 เมตร(N 12.88530, E 102.20442 ระบุพิกัดจาก GARMIN GPS TREKKING) หลังจากจุดนี้ทางจะชันกว่าเดิมมากขึ้นแต่ที่สนุกคือทางลื่นมาก
จาก หินแปดเหลี่ยม เราเดินเท้าต่อเพื่อไต่ระดับไปที่ หินแหลม ความสูง 629 เมตร (N 12.88605, E 102.20164 ระบุพิกัดจาก GARMIN GPS TREKKING) เส้นทางชันขึ้นมากกว่าเดิม ลื่นกว่าเดิม เรียกว่าเดินป่าหน้าฝนแบบสี่ขาก็ได้ ที่สำคัญสติจำเป็นต้องใช้เยอะมากเพราะหากพลาดแม้แต่นิดเดียวก็จะลื่นไถลลงได้ ที่หินแหลมจะมีที่ให้เราได้นั่งพัก บริเวณนี้พอจะมีลมโกรกให้เย็นสดชื่นบ้าง เพราะทางที่เราเดินมา ส่วนมากจะไม่เจอช่องลมเลยและจะรู้สึกอบอ้าวถึงแม้ว่าจะมีฝนตกลงมาบ้างก็ตาม
จากหินแหลม จุดต่อไปที่เราจะต้องผ่านคือทางลงถ้ำ ซึ่งบริเวณถ้ำถือว่าเป็นไฮไลท์หนึ่งของการเดินขึ้นผาหินกูบ แต่เพราะฝนตกหนักมากเลยไม่ได้หยิบกล้องขึ้นมาถ่าย เอาเป็นว่าต้องเดินลอดผ่านถ้ำที่มีลักษณะเป็นหินพิงกันมีช่องว่างให้เดินผ่านลอดไปประมาณ 30 เมตร ในถ้ำมีแสงน้อยแต่พอโผล่ออกมาจากถ้ำ ยืนงงว่าต้องเดินต่อทางไหนเพราะไม่มีร่องรอยการเดินมีแต่หินก้อนโตและต้นไม้ สุดท้ายตรงนี้แหละครับที่เราจะต้องปีนกิ่งไม้เพื่อขึ้นไปด้านบนแล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 300 เมตร ถึงจะถึงบริเวณหินกูบ ที่ความสูง 914 เมตร (N 12.88961, E 102.19874 ระบุพิกัดจาก GARMIN GPS TREKKING)
เดินจากถ้ำอีกไม่ไกลก็ถึงหินกูบ พอขึ้นไปถึงแอบตกใจว่า เขาจำกัดนักท่องเที่ยวจริงไหม เพราะว่ามีนักท่องเที่ยวเยอะมาก นี่ขนาดเจ้าหน้าที่รับสายคอนเฟิร์มว่ามีที่นอนใต้หินชัวร์สุดท้ายไม่มีครับ ต้องเดินวนหาอยู่สองสามรอบบนเขาเลยให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่หน้างานมาช่วยเครียพื้นที่ใหม่ (เจ้าหน้าที่รับเรื่องกับเจ้าหน้าที่หน้างานคนละคนกัน) ซึ่งเจ้าหน้าที่หน้างานก็ช่วยอย่างเต็มที่ ต้องขอขอบคุณพี่ๆเขาด้วย
ที่นอนที่เราได้คือบนสุดที่จะขึ้นไปหลังหินกูบต้องแบกสัมภาระไต่เชือกขึ้นไปนอน ด้านบนลมแรงหามุมหลบยาก แต่ไหนๆมาแล้วยังไงก็ต้องนอน ถือว่าสัมผัสธรรมชาติให้เต็มที่ กลางคืนฝนตกสาดเข้าที่นอน สบายใจกันไป คิดว่าเดี๋ยวก็เช้า
เช้าวันใหม่ฝนไม่ตก อากาศดีมาก เย็นสดชื่น สูดโอโซนได้เต็มปอด นั่งๆ ยืนๆ ถ่ายรูปและดูทะเลหมอก สิ่งนี้แหละครับคือรางวัลที่นักเดินทางอยากสัมผัส วิว 360 องศา
อิ่มกับบรรยากาศด้านบน ก็เตรียมตัวเก็บของลงด้านล่าง เพราะคนเริ่มกลับเราก็จะมีที่ว่างสำหรับถ่ายรูปบริเวณกูบหินแบบไม่มีเพื่อนร่วมเฟรมภาพ
หลังจากที่เดินลงมากันอย่างเหน็ดเหนื่อยจัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วขึ้นรถตู้ไป สายน้ำจันท์ โฮมสเตย์ เพราะมื้อบ่ายก่อนกลับกรุงเทพฯต้องจัดหนักสักหน่อย ทั้งกุ้ง ปลา ต้มส้มปูนิ้ม เส้นจันผัดปู หมูชะมวง ที่บรรยากาศริมแม่น้ำจัน
การเตรียมตัวเดินขึ้นช่วงหน้าฝน
-รองเท้าดอกใหญ่
-ถุงกันทาก ระหว่างทางมีทากแต่ไม่มาก
-เสื้อกันฝน
-ฟรายชีส
-แผ่นปูพื้นและที่รองนอน
-เป้ที่สะพายแล้วสบายบ่าหลัง
-ยาสามัญทั่วไป
-อาหาร
-น้ำดื่มช่วงขาขึ้น ด้านบนมีแหล่งน้ำ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 084-8649357
ขอขอบคุณเครื่องนำทาง GARMIN
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น