ภูเก็ต กินอิ่ม นอนสบาย

ภูเก็ต กินอิ่ม นอนสบาย


สวัสดีครับทุกๆท่านทุกๆคน ผม Mr.Meesookde รายงานตัว ทริปนี้จะพาบินลัดฟ้าด้วยโปร ศูนย์บาท ของหางแดง จากดอนเมือง สู่ภูเก็ต ทริปนี้มีเวลา สามวันสองคืน สบายๆเที่ยวแบบไม่รีบ มีครบทั้งซื้อวันเดย์ทริปและเช่ารถขี่เที่ยว

วันแรกของการเดินทาง ได้ตั๋วเวลาดีมาก คือ 07.55น. ออกจากบ้านตั้งแต่เช้าเพื่อไปทำการเช็คอินและโหลดกระเป๋า การบินที่ดอนเมืองช่วงเช้าดีหน่อยครับเพราะส่วนมากบินในประเทศคนเลยไม่เยอะเท่าไร หลังจากที่บินได้สักพักผมก็หลับอย่างสบายใจ ประมาณ 40 นาที มาตื่นอีกทีช่วงใกล้ถึง มองออกไปนอกหน้าต่างเห็นวิวแบบที่อยากจะเห็น คือ ป่าไม้กับธารน้ำหลายสาย ไหลรวมลงทะเลปากอ่าว

เมื่อลงจากเครื่องรับกระเป๋าเสร็จเรียบร้อย โทรหาพี่ชาญวิทย์ Phuket Budget Taxi เพราะเรานัดกันไว้ให้พี่เขาไปส่งที่แถวๆ หาดกะตะ จากสนามบินไปที่พัก Eastin Yama Hotel แถวกะตะพี่เขาคิดค่าบริการ 1,000 บาท อ่อลืมบอกครับว่าพี่เขาใช้รถฟอร์จูนเนอร์ และค่าบริการผมได้โอนเข้าบัญชีพี่เขาก่อนเดินทาง 1 วัน โดยปรกติถ้าเราเหมา แท็กซี่หรือไปด้วยรถอื่นเขาก็จะมุ่งหน้าไปยังจุดหมายที่คุยกันไว้ แต่พี่ชาญวิทย์  ใจดีครับ แค่เราถามว่าพี่ครับมีร้านอาหารพื้นบ้านร้านไหนอร่อยบ้าง เพราะเริ่มหิวแล้ว พี่แกก็จัดแจงแนะนำและพาไปกิน 

มื้อแรกที่ภูเก็ตคือ หมี่สะปำ ร้านคุณยายเจียร (N 7.94781 E 98.39167 พิกัด GPS โดย GARMIN GPS TREKKING) ร้านนี้พี่เขาบอกว่าเป็นคนท้องถิ่นกินแต่ราคาจะสูงกว่าร้านทั่วไปนิดหน่อย ด้วยความหิวเลยจัดมาซะเต็มโต๊ะ ทั้งหมี่สะปำพรีเมียมที่มาครบทะเลทั้งกุ้ง หอย ปู ว่าแต่ขาดปลานี่หน่า นอกจากพรีเมียมยังสั่งแบบธรรมดามาลองด้วยจะได้รู้ว่าต่างกันมากไหม โดยส่วนตัวแนะนำพรีเมียม 150 บาท รสชาติกลมกล่อมมากกว่า เพราะมีรสชาติและกลิ่นของปูเข้ามาช่วยเยอะมาก น้ำซุปแบบขลุกขลิกให้ความละมุนมากกว่าแบบธรรมดา

ส่วนเมนูอื่นที่ต้องลองคือ ปอเปี๊ยะปู ปอเปี๊ยะหมู โลบะ และหมูสะเต๊ะ หมูสะเต๊ะทำได้ดีมากรสอร่อยกลิ่นเครื่องเทศหอมขึ้นจมูก เช็คบิลมารวมประมาณ 600บาท

อิ่มท้องสบายใจให้พี่ชาญวิทย์ขับรถไปส่งที่ Eastin Yama Hotel (N 7.82011 E 98.30931 พิกัด GPS โดย GARMIN GPS TREKKING)ที่อยู่ห่างจากหาดกะตะไม่เกิน 2 กิโลเมตร ทันทีที่รถจอด พนักงานโรงแรมเดินเข้ามาทักทายพร้อมนำกระเป๋าของเราไปรอที่ล็อบบี้ นั่งรอไม่นานก็มีเครื่องดื่มเวลคัมดริ้งค์มาต้อนรับพร้อมกับการเช็คอิน เช็คอินเสร็จสรรพพนักงานพากระเป๋าและนำทางผมไปที่ห้องพัก พร้อมแนะนำส่วนต่างๆของห้อง จากนั้นก็ขอตัวเอนกายก่อนที่จะให้โรงแรมติดต่อรถมอเตอร์ไซต์เช่าให้ช่วงบ่าย

Eastin Yama Hotel เป็นโรงแรมเป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่บนเนินเขา สามารถมองเห็นทะเลแถวบริเวณหาดกะตะ มุมไกลๆได้  ตัวล็อบบี้อยู่บริเวณชั้นสอง ส่วนสระว่ายน้ำจะอยู่ชั้นล่างซึ่งเราสามารถมองเห็นได้จากล็อบบี้ ในส่วนของห้องพัก ซีวิวที่ผมพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้ง เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์จอ LCD และช่องสัญญาณดาวเทียม  สัญญาณอินเตอร์เน็ทไร้สาย อุปกรณ์ชงชา กาแฟ  เครื่องทำน้ำอุ่น เรนชาวเวอร์  ตู้เย็น มินิบาร์ ตู้เซฟนิรภัย เสื้อคลุมอาบน้ำ รองเท้าใส่ในห้องพัก ร่ม ไฟฉาย ไดร์เป่าผม อ่างอาบน้ำ พนักงานมีความยิ้มแย้มแจ่มใสดี ส่วนข้อเสียที่จะขอติก็คงเป็นเรื่องผ้าเช็ดตัวที่เริ่มดูเก่า ปลายผ้าเริ่มรุ่ย 

โดยรวมแล้วถือว่าดีครับในราคาที่ไม่แพง อ่อลืมไปครับ มื้อเช้า ที่ Eastin Yama Hotel เป็นบุฟเฟ่ต์ มีทั้งอาหารไทย ฝรั่ง ขนมปัง สลัด น้ำผลไม้ต่างๆ เปิดตั้งแต่ 6 โมงเช้า ถึง 11 โมง เรียกได้ว่ามีให้กินกันยาวๆแบบไม่ต้องรีบลุกจากที่นอน 

บ่ายวันแรกของการเดินทางหลังจากที่ได้รถเช่าเรียบร้อย วันละ 300 บาท (บริการถึงที่โรงแรม) ก็ตระเวณออกเที่ยวตามแผนจะเริ่มด้วย หาดกะตะ หาดกะรน จุดชมวิวสามอ่าว แหลมพรหมเทพ แล้วกินมื้อเย็นที่ราไวย์ เส้นทางรวมทั้งหมดจากที่พักไม่น่าเกิน 20 กิโลเมตร ว่าแล้วใส่หมวกกันน็อคบิดกุญแจสตาร์ทเครื่อง มุ่งหน้าไปชมบรรยากาศชายหาดกะตะกันก่อนเพราะว่าใกล้สุด 

หาดกะตะตอนที่ผมไปคลื่นลมค่อนข้างแรงแต่บริเวณนี้มีการจำกัดโซนให้นักท่องเที่ยงลงทะเลเพื่อความปลอดภัยและมีเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าระวังดูแลที่ชายหาดด้วย จากนั้นขี่รถไปที่หาดกะรน

หาดกะรนตอนที่ผมไปลมแรงเช่นกันแต่คลื่นไม่สูงเท่าหาดกะตะ บริเวณหาดมีธงปักว่าให้เล่นน้ำบริเวณไหนเพื่อความปลอดภัย แวะเที่ยวมาสองหาดจากนั้นก็ขี่รถขึ้นภูเขากันบ้าง

หลังจากขี่รถขึ้นเขามาไม่นานก็เจอจุดชมวิวสามอ่าว  บริเวณนี้เป็นหนึ่งจุดชมวิวที่ค่อนข้างสวยงามเห็นอ่าวโค้งยาวสามอ่าว จะเห็นหาดในหาน หาดกะรนและหาดกะตะ

ชมวิวสามอ่าวเสร็จมุ่งหน้าไปต่อที่ จุดชมวิวกังหันลม (N 7.76964 E 98.30632 พิกัด GPS โดย GARMIN GPS TREKKING) จุดนี้จะใกล้แหลมพรหมเทพสามารถมองเห็นกันได้ ช่วงที่ไปแดดดีมากฟ้าใส โดยส่วนตัวผมว่าช่วงที่ผมมาบริเวณนี้น่าจะชมวิวพระอาทิตย์ตกสวยมากเพราะไม่มีอะไรมาบดบังและบริเวณนี้มีคู่รักมาถ่ายภาพพรีเวดดิ้งเยอะมากโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน

ที่สุดท้ายของการชมวิวมุมสูงในวันนี้คือ แหลมพรหมเทพ (N 7.76196 E 98.30499 พิกัด GPS โดย GARMIN GPS TREKKING) ตอนที่ผมไปถึงประมาณ 4 โมงกว่าๆเกือบ 5 โมง คนเยอะมาก หามุมหลบถ่ายรูปได้สักพักแล้วก็หนีไปหาของกินแถวหาดราไวย์ต่อ

หาดราไวย์เป็นหนึ่งที่ในภูเก็ตที่มีอาหารทะเลสดขายอยู่ริมทะเล มีร้านให้เลือกนับสิบร้าน ส่วนมากขายแค่วัตถุดิบ ไม่ว่าจะเป็น กุ้งมังกร กั้ง กุ้งลายเสือ หอยชนิดต่างๆ ปู ปลา เรียกได้ว่ามีครบ แต่หลังจากที่ซื้อแล้วก็จะให้ร้านอาหารปรุงให้ซึ่งมีค่าบริการแล้วแต่เมนู ส่วนมากอยู่ที่ 50 บาทขึ้นไป เฉลี่ยเมนูอยู่ประมาณ 80 บาท ส่วนอาหารทะเลผมซื้อที่ร้านเจ๊อุ๊ แต่ทีแรก่อนซื้อก็เดินดูหลายๆร้าน แต่ละร้านจะมีป้ายราคาติดอยู่ทีแรกมองป้ายราคาแล้วคิดในใจว่าแพงมาก แต่เดินไปเดินมา ถามราคา ร้านเจ๊อุ๊บอกว่า ราคาคนไทยอีกราคานะ ซึ่งถูกกว่ากันเกือบครึ่งแล้วแต่ต่อรองราคา ผมเองได้ กุ้งมังกรเจ็ดสีตัวละ 1.1กิโลกรัมมา 1 ตัว กุ้งลายเสือ หอยนางรม กั๊ง หอยตลับและปู หมดไป 2,750บาท ที่แพงสุดก็กุ้งมังกรเจ็ดสี 1,900 บาท จากนั้นก็เดินไปร้านฝั่งตรงข้ามคือ ร้านคุณภา

ร้านคุณภา ราไวย์  เป็นร้านหนึ่งที่มีรสชาติอาหารอร่อยถูกปากคนไทย หลังจากที่ซื้อของมาให้ทางร้านทำ ผมได้เมนู กุ้งมังกรเจ็ดสีซาซิมิ กุ้งมังกรเจ็ดสีย่างเนยกระเทียม กุ้งลายเสือย่างเนย กั้งทอดกระเทียม หอยตลับผัดน้ำพริกเผา หอยนางรมสด ปูนิ่ง อิ่มเกินพิกัดเพราะเยอะมาก แต่อาหารโดยรวมรสชาติใช้ได้เลยครับ 

เช้าวันที่สองที่มาเที่ยว ภูเก็ต วันนี้ซื้อวันเดย์ทริปไว้กับ Love Andaman  เพราะว่าจะไปเที่ยว เกาะไม้ท่อน ด้วยราคา 2,399 รวมทุกอย่างตั้งแต่รถมารับที่โรงแรม เรือ อาหารบนเกาะเครื่องดื่ม เรียกได้ว่าไม่ต้องควักเงินเพิ่ม เอาเป็นว่าได้เวลานัดหมายรถตู้ Love Andaman ก็มารับถึงที่จากนั้นพามุ่งหน้าไปท่าเรือเกาะไม้ท่อน  (N 7.82160 E 98.40474 พิกัด GPS โดย GARMIN GPS TREKKING) บริเวณนี้มีจุดลงทะเบียนและรับข้อมือ จากนั้นก็สามารถจิบกาแฟ น้ำผลไม้และกินขนมรอเวลาขึ้นเรือได้เลย (ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มนะครับ) ก่อนขึ้นเรือจะมีน้องไกด์มาทำความเข้าใจเรื่องการขึ้นเกาะและการดำน้ำเล็กน้อย เช่น ห้ามให้อาหารปลา ห้ามแตะต้องปะการัง เป็นต้น
เมื่อถึงเวลาขึ้นเรือ เราต้องถอดรองเท้าจะมีเจ้าหน้าที่ถือถุงดำรองใส่รองเท้าของเรา จากนั่นนั่งเรือแค่ 15 นาทีก็ถึงที่หมายเกาะไม้ท่อนและรองเท้าที่เราถอดใส่ถุงดำจะมีเจ้าหน้าที่เรียงจัดคู่ให้อย่างดี

เกาะไม้ท่อน (N 7.76835 E 98.48209 พิกัด GPS โดย GARMIN GPS TREKKING) เกาะไม้ท่อนเป็นหนึ่งเกาะของภูเก็ตที่คนไทยไปไม่เยอะเท่าไร ทั้งที่การเดินทางใช้เวลาไม่มาก แต่เมื่อแลกกับธรรมชาติและการบริการนำเที่ยวของ Love Andaman ถือว่าที่นี่เป็นที่หนึ่งที่น่าเที่ยวมาก

เมื่อขึ้นจากเรือ เดินไปบนสะพานที่ทอดยาวมายังจุดจอดเรือ ผมมองไปในทะเลเห็นปลาฝูงใหญ่ว่ายวนไปมาก่อนที่จะไปจับจองหาโต๊ะที่นั่ง พร้อมรับปรีฟก่อนดำน้ำ ระหว่างนั้นจะมีช่วงเวลาว่างๆให้เดินถ่ายรูปเล่น ซึ่งผมโชคดีมากทั้งที่ไปหน้าฝนแต่ฟ้าสดใสแดดแรงไม่เจอฝนเลยแม้แต่น้อย เลยเพลินกับการถ่ายรูป 

ถึงเวลารับอุปกรณ์และลงดำน้ำ ช่วงที่ดำน้ำเป็นช่วงน้ำลง ประมาณ 11 โมง ซึ่งที่เกาะไม้ท่อนต้องดำช่วงน้ำลงเพราะว่าปะการังน้ำตื้นของเกาะไม้ท่อนอยู่ที่ความลึกประมาณ 5 เมตร ถ้าน้ำขึ้นก็จะห่างไกลจากปะการังมาก เพราะขนาดน้ำลงยังถือว่าไกล แต่ข้อดีคือเราไม่ต้องระวังว่าจะโดนปะการังหรือทำให้ปะการังเสียหาย โลกใต้ทะเลที่นี่มีปะการังเขากวาง ปะการังแผ่น บ้านนีโม่ สามสี่จุด ระหว่างที่ผมดำน้ำเจอแตนทะเลต่อย ตอนอยู่ในน้ำไม่เท่าไรแต่พอหนึ่งคืนผ่านไปตุ่มเริ่มขึ้น นับๆดูได้ 40 ตุ่ม คันอยู่หลายวันกว่าจะหายตอนที่เขียนรีวิวนี่ก็เขียนไปคันไป 555

หลังจากที่ดำน้ำเสร็จ Love Andaman  เตรียมอาหารซีฟู้ด กุ้ง ปลาหมึกย่าง และเมนูอื่นๆอย่างไก่ทอด ปลาสามรส น้ำพริกกุ้งเสียบ ส่วนเครื่องดื่มนั้นมีให้เลือกเยอะมาก ทั้งน้ำอัดลม น้ำผลไม้ สามารถสั่งแบบปั่นได้ด้วย ส่วนชากาแฟมีให้เลือกหลายยี่ห้อหลายแบบ ยังไม่หมดยังมีขนมให้กินเล่นด้วยทั้งเค้กทั้งคุกกี้ บอกเลยครับว่าคุ้มกับราคาจริงๆ กุ้งเผามีให้กินเยอะจนพนักงานเดินเอามาแจกตามโต๊ะว่ามีใครจะรับเพิ่มอีกไหม

อิ่มท้อง นั่งชิล เห็นบรรดาไกด์พุ่งเข้าชาร์ตลูกทัวร์ ที่ว่าเข้าชาร์ตเพื่อถ่ายรูปให้นะครับ ไกด์ พนักงานเข้าประกบช่วยถ่ายรูปให้ทุกคน แค่นั้นยังไม่พอ ยังช่วยคิดท่าทาง แอคต่างๆให้อีกด้วย ซึ่งท่าถ่ายภาพของไกด์แต่ละคนไม่ธรรมดา ทั้งนั่ง นอน โก้งโค้งถ่ายภาพ จุดนี้เอาใจไปเลย สรุปใช้เวลาอยู่ที่เกาะไม้ท่อนตั้งแต่  10 โมงถึง บ่ายสามโมงกว่าถึงจะกลับเข้าฝั่ง

เช้าวันสุดท้ายที่ภูเก็ต เช้านี้ไม่มีอะไรมาก ตื่นสายๆ อาบน้ำ เกาะตุ่มที่โดนแตนทะเลแล้วลงไปกินมื้อเช้าก่อนที่จะขึ้นมาเก็บของเตรียมตัวเข้าเมือง ไปย่านเมืองเก่าภูเก็ต โดยพี่ชาญวิทย์คนเดิม ระหว่างทางทีแรกจะให้พี่ไปส่งที่ย่านเมืองเก่าเลยแต่คุยไปคุยมาถามพี่เขาถึงร้านชิลๆมุมสูงๆ พี่ชาญวิทย์ก็แนะนำร้านทุ่งคากาแฟ เลยให้พี่เขาพาไปซะเลย 

ทุ่งคากาแฟ   (N 7.89220 E 98.38090 พิกัด GPS โดย GARMIN GPS TREKKING)  เป็นร้านอาหารที่อยู่บนเขา สามารถมองเห็นวิวเมืองและทะเลได้จากที่ร้าน ผมสั่งเครื่องดื่มและขนมมากินนิดหน่อย ก่อนที่จะเเดินเล่นถ่ายรูปแล้วไปย่านเมืองเก่า

ย่านเมืองเก่าเหมาะสำหรับการเดินในช่วงเย็นชมภาพวาดตามผนังตึกในมุมต่างๆและเดินดูเดินชมสถาปัตยกรรมตึกเก่า แต่ตอนที่ผมไปเป็นช่วงบ่ายแดดกำลังแรงได้ที่ เดินถ่ายรูปไม่นานขอหลบเข้าร้านกาแฟนั่งตากแอร์เย็นๆแล้วออกมาเดินเล่นในช่วงเย็นอีกที

มื้อเย็นก่อนพลบค่ำแวะไปกินข้าว ร้านตู้กับข้าว เมนูที่อยากกินมากคือ ขนมจีนแกงปู แล้วก็สมใจอยากเพราะไปวันเสาร์ทางร้านมีเมนูนี้พอดี เพราะเหมือนว่าไม่ได้ทำเมนูนี้ทุกวัน ขนมจีนแกงปูที่ ร้านตู้กับข้าว ถูกจัดจานมาพร้อมผักสดพื้นถิ่นกินคู่กับขนมจีนแกงปูเข้ากันอย่างบอกไม่ถูก รสชาติของแกงปูกลมกล่อม อร่อยมาก ผมกินจนไม่เหลือ ขอบอกว่าประทับใจครับถ้ามีโอกาสจะแวะไปอีกแน่นอน 

ปิดท้ายก่อนกลับ เดินแวะถ่ายภาพตึกที่มีแสงสีประดับและนัดให้พี่ชาญวิทย์มารับเพื่อไปส่งที่สนามบิน

สำหรับเวลาสามวันสองคืนที่ได้มาภูเก็ตผมคิดว่ายังเวลาน้อยไปสักนิดเพราะทีแรกตั้งใจไปกินอาหารและไปเที่ยวอีกหลายที่แต่ไม่เป็นไรไว้มีโอกาสจะมาเยือนใหม่ โดยเฉพาะเกาะต่างๆที่อยากไป แล้วพบกันใหม่นะ ภูเก็ต

ติดตามการเดินทางได้ที่ 
www.facebook.com/alonetravel  
www.facebook.com/meesookde

ขอขอบคุณเครื่องนำทาง GARMIN